VR นับว่าในตอนนี้ประเทศไทยเริ่มมีการพัฒนาในด้านการศึกษาไปดีมากขึ้น และถึงอย่างนั้นก็ยังรวมเรื่องของการใช้ทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เท่าที่เห็นๆกันอยู่ก็อาจจะไม่ได้ชัดมากสำหรับโรงเรียนทั่วๆไป แต่ก็เริ่มมีเข้ามาบ้างแล้ว
VR หรือที่เราเรียกว่า Virtual Reality ก่อนหน้านี้กลายเป็นเทคโนโลยีที่รู้จักกันในด้านของเกมจะเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นเหมือนกับการสร้างทั้งมิติและความรู้สึกต่างๆให้ได้เข้าถึงเกมมากขึ้น ดังนั้นในหลายในบ้านที่มีเด็กหรือคนที่ชอบเล่นเกมก็อาจจะมีเครื่องนี้ปิดเอาไว้ภายในบ้าน แต่ก็ไม่ใช่แค่นั้นพอยิ่งใครที่เป็นสาวกของการดูหนัง การเลือกใช้เครื่องมือก็ทำให้การดูหนังนั้นเหมือนกับการสร้างบรรยากาศโดยรอบขึ้นมาจริงๆ
ในด้านการศึกษาที่เริ่มมีการนำเอาเข้ามาใช้บอกเลยว่าเป็นที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะนับว่าเป็การสร้างประโยชน์แบบมุมกว้าง ในบางพิพิธภัณฑ์นั้นก็มีการนำมาจัดเป็นนิทรรศกาลด้วยซ้ำไป
โดยหลักๆแล้วการที่ใช้เทคโนโลยี VR มาเป็นตัวช่วยนั้น สามารถที่จะช่วยในการเรียนในหลายๆด้าน เพราะสำหรับเด็กๆ สิ่งเรานี้เป็นเหมือนกับการเปิดจินตนาการเพิ่มขึ้น แต่ในบรรดาเหล่าพี่โตๆทั้งหลาย นับว่าเป็นเหมือนกับตัวช่วยที่ทำให้ได้ฝึกของจริง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการแพทย์ ที่สามารถใช้เทคโนโลยีนี้มาช่วยเรื่องของการผ่าตัดแบบเสมือนจริง หรือสำหรับกลุ่มนักออกแบบก็สามารถที่จะใช้ในด้านของการออำแบบจำลอง รวมถึงสามารถใช้สร้างโลกเสมือนในการฝึกบินได้อีก
นับเป็นเทคโนโลยีด้านการเรียนที่แท้จริง จะว่าไปถ้าจะเอาข้อดีแบบเห็นได้ชัดๆจนทำให้ตัดสินใจเลือกมาลองดูก็มีอยู่หลายข้อทีเดียว เช่น
ขนาดที่เสมือนจริง
ทุกๆครั้งที่เวลาเรียนอะไรเป็นแบบจำลอง คนที่ทำงานในด้านของการออกแบบน่าจะทราบกันดีว่า จะต้องมีการตีขนาดให้เล็กลงในแบบย่อเพื่อที่จะให้ง่ยต่อการเก็บรายละเอียด หรือบางครั้งก็ไม่เลย แต่สำหรับ VR นับว่าเป็นสิ่งที่เข้ามาทดแทนในด้านนี้แบบเต็มที่ เพราะสามารถที่จะปรับขยายขนาดได้ตามเสกลงานจริงๆ โดยอาจจะอยู่กับสถานที่จริงก็ได้
ความรู้สึก
บางครั้งในการที่ทำอะไรที่ผ่านตัวหนังสือหรือแค่ภาพในหนังสือสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่สามารถบรรยายออกมาให้เห็นได้หมด หรือให้ความรู้สึกเสมือนจริงได้ เทียบกับการเลือกใช้เทคโนโลยี VR ถือว่าเป็นที่น่าตื่นเต้นมากเพราะสามารถที่จะให้ความรู้สึกที่เหมือนจริงได้ ถ้าจะยกตัวอย่างในทางการแพทย์แบบเห็นได้ชัดคงจะเป็นเรื่องของระบบต่างๆภายในร่างกายที่สามารถเห็นการเคลื่อนไหวและการทำงานจริงของระบบเหล่านั้น
นับว่านี่เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถือว่ารองรับการศึกษาและปฏิรูปการศึกษาได้อย่างชัดเจน เพราะบางครั้งการเรียนรู้ผ่านตัวหนังสือหรือตัวอักษรอาจจะไม่เพียงพอแล้วสำหรับเด็กในยุคนี้ ถ้าหากจะเทียบเท่ากับจินตนาการหรือการได้เรียนรู้จริงๆ