Project based Learning หรือ PBL ในสังคมยุคปัจจุบันการเรียนรู้กลายเป็นสิ่งที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วคล้ายกันกับเรื่องของเทคโนโลยี แต่ถ้าจะพูดไปแบบนั้นทำให้รูปแบบการเรียนรู้ของเด็กยุคใหม่ที่แม้ว่าจะเป็นครอบครัวเองก็ควรที่จะต้องเริ่มที่จะเอาสิ่งนี้มาปรับแล้ว
และเท่าที่เห็นโรงเรียนส่วนใหญ่เริ่มมีการนำเรื่องนี้เอามาปรับให้กับเด็กมากขึ้น คือ Project based Learning หรือที่จะเรียกอีกอย่างว่า PBL
อย่างที่เห็นตามชื่อ คือ โปรเจค แน่ละว่าจะต้องเกี่ยวกับเรื่องของการทำโปรเจคล้วนๆ แต่บอกก่อนว่าไม่ได้เป็นแบบที่เด็กมหาลัยหรือคนส่วนใหญ่คิดหรอกนะว่าจะต้องยุ่งยากหรือวุ่นวายอะไรขนาดนั้นคล้ายกับเด็กมหาลัยทำกันเป็นเรื่องปกติ
จริงๆก็ควรที่จะต้องทำความรู้จักกับสิ่งนี้มากขึ้น เพราะว่าหลายๆโรงเรียนเริ่มที่จะเอามาเป็นมาตรวัดความสำเร็จของเด็กด้วยซ้ำ
หลักๆในเรื่องของการทำนั้นก็จะต้องขึ้นอยู่กับสิ่งที่เด็กอยากที่จะเรียนรู้หรืออยากที่จะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น จึงเป็นสาเหตุให้ถ้าเป็นเด็กที่เริ่มโต โจทย์ที่ได้อาจจะไม่ได้มีหัวข้อที่ถูกกำหนดมาให้ แต่สำหรับเด็กเล็กๆก็อาจจะเป็นสิ่งที่คุณครูนั้นกำหนดมาให้
และถ้าจะบอกว่าการเรียนแบบนี้ก็ถือว่าเป็นข้อดี ก็ต้องเป็นเรื่องของการที่ทำให้เด็กส่วนใหญ่นั้นได้ดึงทักษะและมองเห็นทักษะสำหรับการใช้ในการทำงานออกมาชัดเจนขึ้น และที่สำคัญยังเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เด็กเชื่อมต่อกับการเรียนรู้ในโลกจริงมากกว่าจินตนาการได้ง่ายขึ้น
อย่างน้อยเพื่อให้เกิดความสอดคล้องก็มักจะมีการให้เด็กได้ลงพื้นที่ไปทำงานร่วมกับชุมชน เพื่อที่จะมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตมากกว่าการเดาหรือคาดหวังปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากความคิด ซึ่งก็จะเป็นการใช้วิธีการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
อย่างน้อยการที่ได้ใช้ Project หรือวิธีการเรียนแบบ pbl เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ทำให้ครูหรือผู้ใหญ่ได้เข้าใจเด็กมากขึ้นก็คงจะเป็นเรื่องนี้เพราะเด็กสามารถที่จะเข้ามาขอคำปรึกษาและคำแนะนำได้อยู่ตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กจะได้รับมากกว่าการได้คำสั่ง
และถึงแม้ว่าการเรียนแบบนี้ตลอดร่วมเข้ามามีบทบาทมากขึ้นภายในประเทศไทยสำหรับการเรียนในกลุ่มเด็กประเภทต่างๆ แต่ปัญหากลับอยู่ตรงที่ว่าด้วยรูปแบบการเรียนที่ไม่ได้มีขีดจำกัดหรือขอบเขตกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นแล้วเรื่องของการใช้มาตราวัดหรือเกณฑ์การกำหนดว่าในความเป็นจริงแล้วเด็กสามารถที่จะประสบความสำเร็จนั้น สามารถที่จะกำหนดได้
แต่ตามหลักงานวิจัยเด็กส่วนใหญ่ที่ได้ใช้วิธีการเรียนรู้แบบนี้แล้วทำงานเป็นกลุ่มก็จะได้ทักษะและทำให้ผู้ใหญ่ได้มองเห็นของเด็กเหล่านั้นมากขึ้น