สีเทียน คุณค่าที่เด็กคู่ควร
“เด็กกับสี ดูจะเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองคงทราบดีอยู่แล้วว่าจะให้แยกออกจากกันแค่ไหนก็คงจะแยกออกมาไม่ได้ แต่ประเด็นคือต่อให้เด็กกับสีจะเป็นสิ่งที่คู่กันมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วสิ่งที่ผู้ปกครองควรทำก็คงจะเป็นการเลือกให้เหมาะสม”
เลยไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ที่ใครเคยไปบ้านเด็กเล็กๆจะเห็นว่ามีสีอยู่เยอะมากทีเดียว บางทียังสงสัยว่าเป็นเด็กจำเป็นที่จะต้องมีสีเยอะขนาดนั้นเลยหรอ?? แต่อย่างที่บอกสีดูจะเป็นได้ทั้งของเล่นและสิ่งที่ช่วยทำให้เด็กนั้นสามารถที่จะสร้างเสริมจินตนาการต่างๆได้ แต่ก็อย่างที่เห็นว่าสีไม่ได้มีอยู่แค่ประเภทเดียว ยิ่งให้เลือกก็คงจะเลือกไม่ถูก
แต่ถ้าเป็นเด็กในวัย 1-2 ปี บอกเลยว่าสีที่เด็กในวัยนี้บอกเลยว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้อะไรเยอะ เรียกว่าใช้สีแค่ประเภทเดียวก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
สีที่ว่าก็คือ สีเทียน และจะเห็นได้ชัดจากหนังสือที่เด็กๆไปซื้อที่ร้านหนังสือ ส่วนใหญ่แล้วของแถมที่ได้มานั้นก็เป็นสีเทียน เป็นหนึ่งในของแถมยอดฮิตที่บอกเลยว่าไม่ว่ายังไงก็ดูจะเป็นของแถมยอดฮิต แต่แน่นอนว่านี่อาจจะสร้างข้อสงสัยให้กับผู้ปกครองว่าทำไมเด็กในวัยนี้ สีเทียน ดูจะเป็นสีที่เหมาะกับวัยนี้มากที่สุด
จริงๆแล้วการที่ สีเทียน ดูจะเป็นสีที่เหมาะกับเด็กวัยนี้มากที่สุดเลยก็เป็นเพราะเด็กวัยนี้ยังมีความจำเป็นอย่างมากในเรื่องของการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ยังไม่แข็งแรงมาก การจับดินสอสีที่มีขนาดเล็กจึงยังไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแล้วสีเทียนที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 1.2 เซนติเมตรดูจะเป็นสีที่มีขนาดที่เหมาะมือกับเด็กมากกว่า และทำให้การฝึกจับเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น และที่สำคัญสีเทียนจะเป็นสีที่มีเฉดน้อย เพราะฉะนั้นเด็กจึงไม่จำเป็นที่จะต้องจดจำอะไรเยอะ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความสับสนตามมาในภายหลังอีกด้วย
ดังนั้นถ้าหากว่าผู้ปกครองเลือกไม่ถูกว่าจริงๆแล้วสีที่เหมาะสมหรือสีที่ควรจะเลือกซื้อนั้นควรจะเป็นสีแบบไหนและสีอะไร แต่อย่างน้อยต้องบอกก่อนว่าสีเทียนที่เลือกควรจะเลือกแบบที่ไม่ผสมสารเคมีหรือแบบที่ออแกนิค เพราะจะมีความปลอดภัยกับเด็กในการใช้งานมากกว่า และจะต้องระมัดระวังไม่ให้เด็กเอาเข้าปากหรือเข้าตา แต่แน่นอนว่ายังสามารถใช้ประโยชน์ในเรื่องของการฝึกจับดินสอกับปากกาให้เด็กได้สามารถจับได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย