วิธีการจัดการกับเด็กที่มีนิสัยขี้โมโหอารมณ์ร้าย
ก็รู้จักความก้าวร้าวอารมณ์ร้ายของเด็กๆเราต้องหาสาเหตุทางอารมณ์ของลูกและมีเทคนิคในการรับมือกับสภาวะทางอารมณ์ของเด็กที่ยังไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่และแน่นอนว่าพฤติกรรมเช่นนี้เราก็สามารถที่จะสร้างเสริมลูกเพื่อเป็นแบบอย่างต่อไปในอนาคตได้
บกพร่องทางอารมณ์ของเด็กเรียกว่าเป็นการแสดงออกของลูกพฤติกรรมความรุนแรงและความก้าวร้าวเช่นการขว้างสิ่งของการร้องกรี๊ดการทำลายของการทำร้ายตัวเองและคนรอบข้างซึ่งสาเหตุและวิธีการรับมือกับสิ่งเหล่านี้ก็คือ พฤติกรรมความก้าวร้าวจากครอบครัวครอบครัวเป็นสิ่งที่หล่อหลอมเด็กพฤติกรรมของเด็กต่างๆครอบครัวมักจะมีผลเสมอครอบครัวอบอุ่นเด็กก็จะได้รับการซึมซับพฤติกรรมเเต่ถ้าครอบครัวไม่อบอุ่นเด็กก็จะได้รับความโมโหร้ายมาจากครอบครัวแทนและก้าวร้าวได้ หรือแม้แต่จากสิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงความก้าวร้าวต่างๆจากหนังจากการเลี้ยงลูกจากผู้คนรอบตัวแม้ไม่ใช่ครอบครัวเราเองพฤติกรรมและอารมณ์ของลูกก็สามารถเปลี่ยนไปตามจากสภาพแวดล้อมเหล่านี้ หรือจะเป็นพฤติกรรมจากตัวเด็กเองเด็กเด็กจะเรียนรู้ในการแสดงออกเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการการที่เด็กแสดงออกท่าทางก้าวร้าวแล้วได้ในสิ่งที่ต้องการนั้นหรือได้ของรางวัลเด็กก็จะเรียนรู้พฤติกรรมว่าพฤติกรรมนี้สามารถใช้ได้เมื่อต้องการสิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่งหรือต้องการความเอาใจใส่เด็กก็จะเริ่มใช้พฤติกรรมนี้โดยไม่สามารถแยกแยะความเหมาะสมได้ ความก้าวร้าวจากการป่วยของเด็กอาการป่วยต่างๆที่ส่งผลต่อระบบนิสัยระบบอารมณ์พฤติกรรมความก้าวร้าวนั้นพ่อแม่ต้องเข้าใจในตัวลูกด้วยว่าเช่นอาการเจ็บอาการปวดความไม่สบายทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดและแสดงออกมาในทางก้าวร้าวถ้าเราเข้าใจในตัวเด็กเราก็จะรู้ว่าเด็กแสดงความก้าวร้าวออกมาเนื่องด้วยเหตุผลอะไรจากที่เราเคยใช้ความรุนแรงกับเด็กทำให้เด็กเห็นหรือเด็กอยากได้อะไรแล้วเด็กก้าวร้าวเราให้สิ่งนั้นทำให้เด็กเคยชินและใช้ประโยชน์จากส่วนนั้นหรือจริงๆแล้วเด็กแค่ต้องการความสงบเด็กแค่เจ็บเราเพียงแค่ช่วยเหลือให้ถูกต้องพ่อแม่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อพฤติกรรมความก้าวร้าวของเด็ก
การจัดการเรียนรู้ที่โมโหร้ายนั้นพ่อแม่นั้นต้องประเมินด้วยว่าลูกที่โมโหร้ายนั้นมาจากเหตุผลอะไรและควรที่จะโต้ตอบด้วยพฤติกรรมที่ไม่โมโหร้ายกลับไปอย่างเช่นการตีการทรมานเราไม่ควรจะทำสิ่งนั้นกับเด็กเพื่อให้เด็กเคยชินแต่เราควรที่จะอธิบายเอาใจใส่และทำให้เด็กเข้าใจว่าความโมโหร้ายนั้นมันไม่ได้แก้ปัญหาอย่างเช่นการชมเชยให้รางวัลกับลูกเมื่อลูกทำดีและเมื่อลูกก้าวร้าวเราก็ไม่รางวัลหรือการเมื่อยเฉยไม่ให้ลูกเห็นว่าเราเห็นใจเขาเมื่อเขาก้าวเขาก็จะไม่แสดงอาการแบบนั้นอีกจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อนที่ดีสภาพครอบครัวที่ดีหรือเพื่อนบ้านที่ดีเพื่อให้ลูกได้เห็นว่าในสังคมที่ไม่ต้องก้าวร้าวนั้นก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ตามปกติ